วิธีง่ายๆ เพื่อการท่องจำอัลกุรอาน อิสลามกับวันวาเลนไทน์ เทศกาลวาเลนไทน์ … สำหรับใคร



ว่า กันว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะครองตัวเป็นโสดกันมากขึ้น ทั้งนี้ด้วยเหตุผลกลใดน่ะเหรอ? อ่ะก็รู้ๆกันอยู่นี่ว่า เดี๋ยวนี้ฝ่ายหญิงได้รับการศึกษามากขึ้น ดังนั้นจึงสามารถนำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาออกไปหางานทำและมีรายได้จนพึ่งพา ตัวเองได้น่ะซี เหตุนี้สาวๆสมัยใหม่จึงมีโอกาสเลือกที่จะแต่งงานมีเหย้ามีเรือนหรือตัดสินใจ ว่าจะอยู่เป็นโสด ไม่จำเป็นต้องมีแฟนมากวนตัวหรือมีลูกมากวนใจไงล่ะ


ซึ่งจริงๆผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ปิดตัวเอง ถึงขนาดตั้งเป้าไว้ตั้งแต่เกิดหรอกว่า ชาตินี้จะอยู่


เป็น โสดถาวรแน่นอนชัวร์ป้าด เพราะถึงยังไงผู้หญิงก็รู้น่าว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ยังต้องการการพึ่งพาอาศัยจากใครสักคนเพื่อช่วยกัน เติมเต็มให้ชีวิตของทั้งคู่นั้นสมบูรณ์เพียบพร้อมมากขึ้น


ฉะนั้นถ้า เป็นไปได้ หญิงมากมายจึงอยากมีคู่รักที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปจนวันตาย... โอ้โหว่าเข้านั่น เอ้าแต่มันเป็นเรื่องจริง เพราะผู้หญิงดีๆไม่ค่อยมีใครรักง่ายหน่ายเร็วกันน่ะซี ยกเว้นแต่ไปเจอผู้ชายโหลยโท้ย,ไม่เป็นสุภาพบุรุษ, ไม่ให้เกียรติอิสตรีแถมยังเป็นจอมเจ้าชู้และขี้จุ๊ โอ๊ย...ขืนเจอแบบนี้ แม้ไม่อยากเลิก แต่ถ้าเค้าทำให้ เจ็บช้ำระกำใจบ่อยๆ ก็คงอยากคอนเวิร์สไปตามทางใครทางมันบ้างละว่ะ อ่ะฝ่ายหญิงก็มีหัวจิตหัวใจนะเฟ้ย ถ้าทนไม่ได้ก็คือทนไม่ได้...มันก็แค่นั้น!


แถมปัญหาของการครองคู่ที่ ผู้หญิงได้อ่าน,ได้ยิน,ได้ฟังจากทางสื่อมวลชนรวมทั้งจากเพื่อนๆ และญาติๆของพวกเธอ ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้ผู้หญิงกล้าที่จะอยู่เป็นโสดกันด้วยแหละ


หลาย คนยอมรับว่า เข็ดขยาดกับปัญหาของชาวบ้านจนกลัวว่าตัวเองจะเจอปัญหาเดียวกันนี้เข้าบ้าง จึงพยายามตัดปัญหาไม่คบใครให้ลึกซึ้งจนถึงกับจะแต่งงานแต่งการด้วยก็มี พวกนี้อาจถูกล้อว่าเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝน...แต่ก็ช่างมันซี เพราะบางทีอาจดีกว่าแต่งงานแล้วเพิ่งรู้ว่าสามีติดเหล้า,เคล้านารี,เจียด เงินไปปรนเปรออีหนู ฯลฯ ซะอีกนะ แต่ถ้าใคร "ทำใจได้" คงไม่มีปัญหาร็อก อีกอย่างไอ้ที่กลัวๆนั่นน่ะ บางทีคู่ของเราอาจไม่เข้าข่ายมีปัญหาครอบครัวก็ได้ เพราะการเลือกคู่ก็คล้ายกับซื้อลอตเตอรี่อย่างที่เค้าว่า


ส่วน สัปดาห์นี้ไม่ได้ตั้งใจเขียนถึงปัญหาครอบครัวหรอกนะ แต่อยากชวนคุยเรื่อง ทำไมสาวบางคน ถึงได้ขึ้นคานกันมากกว่า ซึ่งหากผู้หญิงคนใดอยากเป็นโสดเองก็แล้วไป กระนั้นถ้าสาวคนใดไม่ได้ตั้งใจจะโสดซะหน่อย แต่ทำยังไง้ยังไงเพศตรงข้ามก็ไม่สนใจที่จะจีบหล่อนเป็นแฟนซะที


โอ้ อย่างงี้แสดงว่า สาวรายนั้นต้องมีบุคลิกและนิสัยใจคอบางอย่างที่ทำให้เพศตรงข้ามเมินใส่ และไม่อยากเข้าไปสุงสิงยุ่งเกี่ยวกะเธอแหงๆ อ่ะงั้นบุคลิกหรือนิสัยใจคอของผู้หญิงอย่างไหนหนอ ที่มีส่วนชักพาให้เธอขึ้นคานได้ไม่ยาก ยกตัวอย่างก็ได้เช่น แอ่น แอ๊น...



1. เรื่องมากแถมยังเอาใจยาก


ไอ้ หยา ถ้าสาวใดเป็นคนเรื่องมากแถมหากมีใครเข้ามาใกล้ และหมายจะจีบเธอแล้วไซร้ แต่มารู้ทีหลังว่าหล่อนดั๊นเป็นคนที่เอาใจยากตัวแม่ละก็ โอ้มายก็อด...นิสัยแบบนี้ ใครทนได้ก็เชื่อเค้าเลย!


แต่พูดก็พูดเหอะ เจ้าอาการเป็นคนเรื่องมากแถมยังเอาใจยากน่ะ คนทั่วๆไปเค้าก็เป็นกันนะ ไม่ใช่ไม่เป็น เอ้าคิดถึงตัวคุณเองก็แล้วกัน บางทีก็เอาใจยากใช่ไหมล่ะ ซึ่งหากเป็นกันนิดเดียวก็ไม่ถือว่าผิดปกติ แต่สำหรับในข้อนี้ ต้องเป็นหญิงที่เข้าข่ายเรื่องมากและเอาใจหล่อนยากอย่างรุนแรง ประมาณว่าถ้าใครอยากคบเธอละก็ต้องทนรอให้เธอแต่งองค์ทรงเครื่องจนคิดว่าตัว เอง สวยเลิศซะก่อน แล้วค่อยยอมไปไหนมาไหนด้วย เพราะหล่อนยึดมั่นกับคำที่ว่าผู้หญิงสวยเพราะแต่ง... นั่นไงล่ะ หล่อนถึงต้องการเวลาเอาใจใส่เสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองมากเป็นพิเศษ ดังนั้นถ้าใครจะจีบหรือเขียนใบสมัครเป็นแฟนของเธอก็ต้องทนตรงนี้ (รอเธอ) ให้ได้นะเฟ้ย ซึ่งนี่ก็แค่แซมเปิลตัวอย่างของความเรื่องมากนะจ๊ะ ของจริงน่ะยังมีอีกเยอะ ไหนจะต้องทำตามที่เธอต้องการทุกอย่างก็ด้วย อู๊ยเป็นงี้สิ มิน่าถึงมีแววขึ้นคานเป็นงี้เอง


2.เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด


หล่อน ชอบสั่งนู่นสั่งนี่ให้คนที่อยู่ใกล้ต้องทำตามที่เธอบอกให้ทำเท่านั้น โหถ้าขืนเป็นแบบนี้ คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรอกว่ะ เพราะถ้าเผื่อเมื่อไหร่ หล่อนเกิดรู้สึกว่า ไม่ได้ดังใจคงอาละวาดโวยวายบ้านแตกแน่นอน อย่างว่า พวกเอาแต่ใจตัวเองคงถูกโอ๋มาตั้งแต่แบเบาะ พอโตขึ้นจึงปรับตัวไม่ได้ ดังนั้นใครที่จะมาจีบเธอจึงต้องเข้าใจว่า เค้าเป็นฝ่ายต้องปรับตัวเข้าหาหล่อนเอง แล้วจะมีกี่คนที่ยอมเนอะ


3. คิดว่าตัวเองถูกเสมอ


ถ้า สาวคนไหนคิดว่าตัวเองทำอะไรก็ถูกไปซะหมดแล้วละก็ คนรอบตัวหล่อนก็พึงสังวรไว้เหอะว่า คุณนั้นทำอะไรก็ผิดในสายตาเธอไปซะหมด ซึ่งของพรรค์นี้จะยอมกันได้ไงใช่ไหมฮ้า ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์เหมือนกัน ย่อมต้องทำถูกมั่ง ผิดบ้างเป็นธรรมดา หากทำใจไม่ได้ว่าตัวเองผิดไม่เป็น แล้วจะอยู่ร่วมกับใครได้ละเนี่ย โถ...หยั่งเงี้ยละสิถึงไม่มีใครกล้าคว้าหล่อนมาเป็นแฟน... รู้ตัวไหม?


4. ขี้เหนียว ไม่รู้จักแบ่งปันให้ผู้อื่นบ้างเลยก็ไม่ไหวน้า


สาว รายใดไม่ยอมมีส่วนช่วยออกค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวด้วยกันระหว่างที่กำลังคบ หาดูใจกับใครสักคนซะบ้างละก็ รู้ไว้เถอะว่า ผู้ชายน่ะ เค้าเซ็งผู้หญิงขี้เหนียวแบบนี้มากจ้ะ เพราะการไปมาหาสู่ กันจะปัดให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายของชายข้างเดียวก็แย่ นะซี ทางที่ดีควรหาร หรือผลัดกันจ่ายค่าดินเนอร์, ค่าเอนเตอร์เทน ดูหนัง, ดูคอนเสิร์ตดีกว่านะ หัดแชร์ๆกันออก เค้าจะได้อยากชวนสาวไปไหนมาไหนไม่ดีกว่าเรอะ


5. ชอบใส่อารมณ์กับผู้คนรอบข้างอย่างไร้ เหตุผล


หาก ใครเจอผู้หญิงที่นิสัยอย่างนี้คงอึ้งกิมกี่กันเป็นแถ้ว! เพราะใครบ้างอยากจีบผู้หญิงที่ชอบอารมณ์เสียใส่คนรอบข้าง ยิ่งถ้าเผื่อเป็นคนไร้เหตุผลด้วยละก็ งั้นปล่อยให้หล่อนขึ้นคานไปซะละกัน.






สาวแบบไหน ที่หนุ่มๆ มองหา?


ผู้หญิง ส่วนใหญ่มักไม่มั่นใจในความสวย ความงาม ความน่ารัก ตลอดไปจนถึงความเซ็กซี่ของตัวเองเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะถ้าหล่อนยิ่งคิดว่า ตัวเองมีหน้าตาธรรมด๊า ธรรมดา ไม่ได้ สวยเลิศเหมือนดารา นักร้อง หรือนางแบบด้วยแล้วล่ะก็ สาวบางคนถึงกับขาดความมั่นใจไปเลยว่า จะมีใครมาเหลียวแลอยากเป็น แฟนกับเธอไหมซะด้วยซ้ำ


แต่พูดก็พูด ดาราหรือนักร้องบางคนก็ใช่ว่าจะสวยซะที่ไหน บางรายงี้หน้าตาธรรมด๊า ธรรมดาจะตายไป นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นดาราอาจไม่รู้ด้วยซ้ำ ส่วนบางคนดูดีได้เพราะเดินตามตำรา “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” หรือไม่งั้นก็ใช้วิธีไปทำศัลยกรรมเสริม ความงามเป็นทางลัดก็มี


ดังนั้น ถ้าสาวใดไม่พอใจในหน้าตาและเรือนร่างของตัวเองแล้วไซร้ ก็อย่าเพิ่งปริวิตกจนเกินเหตุ โดยเฉพาะกลัวว่าจะหาแฟนไม่ได้...สงสัยจะคิดมากไปหรือเปล่าจ๊ะ? ที่ตั้งปริศนาไว้งี้เพราะปรากฏว่า มีสาวเสียงใสคนนึง จู่ๆก็โทรศัพท์มาถามเฉยเลยว่า “พี่คะ ถ้าหนูไม่สวย แล้วจะมีใครมาจีบหนูไหม?” พอได้ยินเท่านั้นทำเอาอึ้งไปเลย


ที่อึ้งเพราะกำลังนึกอยู่ต่างหากละว่า คำถามของน้องเป็นเรื่องสากลเอามากๆ เป็นคำถามที่สาวๆ ทั้งแรกรุ่น รวมทั้งสาวแรกแย้ม...(แย้มอะไรก็คงรู้ๆ กันอยู่) ต่างครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ทั้งนั้นแหละ ก็แหม คำถามที่ว่า “ถ้าตัวเองหน้าตางั้นๆ แล้วจะมีใครมาสนใจมั่งน้อ”...นั่นน่ะ ไม่ว่าสาวรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ ต่างก็คิดคล้ายๆกัน รู้หรอกน่า


ในโลกนี้ ถ้าให้แบ่ง “ผู้หญิงที่สวย” จนสามารถเข็นขึ้นเวทีไปประกวดนางงามได้แล้วละก็ คงมีแค่ 1 ใน 4 ส่วนเท่านั้นแหละ (นี่ให้มากแล้วนะ)

เพราะฉะนั้น ที่เหลืออีก 3 ส่วน จึงเหลือแค่สาวหน้าตางั้นๆ อ่ะดี้ และแสดงว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ ก็ตกอยู่ในที่นั่งเดียวกัน คือไม่ถึงกะสวย แต่ ขณะเดียวกันก็ไม่ถึงกะเลวร้าย แล้วหนูจะกลุ้มไปไย โอ้ย...เห็น “สาวขึ้นคาน” บางคนยังยิ้มแย้มแจ่มใสซะยิ่งกว่า “น้องนางที่มีแฟนแล้ว” ซะอีก แต่เอาเหอะ ในเมื่อเห็นน้องไม่ สบายใจ แล้วพี่จะสบายใจได้ไง จึงอยากปลอบด้วยการเล่าเรื่องหนุ่มๆ เค้าอยากมีแฟนสาวเป็นคนแบบไหนกันแน่น้อ? ให้ฟัง จะได้รู้แจ้งเห็นจริงกันไปเลย ซึ่ง คุณสมบัติของแฟนสาวที่ชายทั้งหนุ่มและไม่หนุ่ม มองหาอยู่น่ะเหรอ ก็ได้แก่...



1. เป็นสาวที่สามารถดูแลเทกแคร์ตัวเองได้ ไม่ใช่สาวป้อแป้หรือหน่อมแน้ม สักหน่อย


แต่เวลาที่ฝ่ายชายจะหยอกเอินน่ะ เค้ามักชอบทำเป็นทีเล่นทีจริงกับสาวๆ อะโน่เนะมากกว่า เพราะผู้หญิงกลุ่มนี้สามารถแหย่เล่นได้สนุกสนานกว่าไง แถมเอาไว้ควง เอาไว้ชวนเป็นเพื่อนไปนู่นไปนี่ก็ได้ คล้ายกลุ่มที่ถูกล้อว่าเป็น ตุ๊กตาหน้ารถ นั่นแหละ ทว่า เมื่อถึงเวลาที่จะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงละก็ สำหรับหนุ่มสมัยนี้น่ะเหรอ ขอเลือกสาวที่ยืนได้ด้วยตัวเอง หรือพูดง่ายๆว่า เป็นเวิร์กกิ้งวูแมนที่ทำงานหาเงินเองได้ และถ้ายิ่งสามารถช่วยเหลือฝ่ายชายได้ด้วยละก็ โอ้ย เค้ายิ่งปลื้มเข้าไปใหญ่


อ้อ ว่าแล้วสาวๆ เองก็ควรมีคุณสมบัตินี้อยู่กับตัวเป็นพื้นฐานไว้น่ะดีแล้ว เพราะถ้าวันใด เกิดรักไม่สมหวังขึ้นมา หนูจะได้สามารถเลี้ยงตัวเองต่อไปได้ โดยไม่ต้องมัวแบมือขอใครกินไงจ๊ะ


2. เป็นสาวที่ยึดมั่นต่อความดีที่สังคมยอมรับ อย่าเพิ่งงงกำลังจะยกตัวอย่างให้ฟัง


เช่น ตั้งกฎเกณฑ์ให้ ตัวเองว่า จะไม่เข้าไปวอแว วอกแวก และ “ให้ท่า” กับชายที่แต่งงานแล้วเด็ดขาด เพราะไม่อยากกินน้ำใต้ศอก เอ้ย... “ไม่นิยมไปรักผัวใคร” และไม่ยอมเป็น “เมียน้อย” ของใคร เพราะไม่อยากเป็นมือที่สาม แต่อยากเป็นเมียเดียวมากกว่า ทำนองนี้แหละ เรียกว่ามีจุดยืนด้านคุณธรรมชัดเจน จึงกลายเป็นเสน่ห์ไปในตัว แหม ดีหยั่งนี้เอง


3. เป็นสาวที่ไม่เริ่มต้นจีบฝ่ายชายก่อน


เพราะถ้าเผื่อหล่อนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ใครๆ จะมองว่า เธอก๋ากั่นเกินไปน่ะซี แถมการไม่เริ่มก่อนยังหมายถึงการเป็นคนเรียบร้อยและรู้ว่าอะไรควร/ไม่ควร หรือที่เรียกว่ารู้กาลเทศะก็ได้ แต่ของพรรค์นี้ ผู้ชายบางคนอาจชอบไม่ตรงกันก็ได้ บางคนนิยมถูกสาว “รุก” ก่อน เพราะให้ความรู้สึกตื่นเต้นอ่ะดี้ และถ้าสาวๆ จะทำหยั่งงี้ ก็สะท้อนลักษณะนิสัยอย่างนึงให้ประชาชีรู้กันไปทั่วเช่นเดียวกันว่า หล่อนน่ะสุดแสนจะมีความเชื่อมั่นในตัวเองแค่ไหน? ซึ่งตรงนี้ก็มีส่วนดีนะยะ....ถ้านำไปใช้ในการสมัครงานและในการทำงาน แต่หากเป็นเรื่องคบหาเพศตรงข้ามน่ะเรอะ คงต้องยั้งๆ เจ้าความใจกล้า ที่จะเข้าไปโปรยเสน่ห์ให้เพศตรงข้ามหันมาสนมั่งเหอะ ยังไงชาวเอเชียก็ยังมีหัวอนุรักษนิยมอยู่น่ะสิ


4. เป็นสาวรู้จักรอที่จะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่ บุ่มบ่ามเร่ไปมีเลิฟซีนกะใครๆ เค้าไปทั่ว


แม้โลกจะยอมรับความเท่าเทียมกันทางเพศของหนุ่มสาวมากกว่าเดิม แถมหนุ่มๆ สมัยนี้ก็ไม่ค่อยแคร์ว่าสาวที่ตัวเองคบเคยมีแฟนมาก่อนรึเปล่า แต่ยังงั้ย ยังไงเชื่อไหมล่ะว่า มีหนุ่มๆ เยอะเลยที่รับไม่ได้กับความไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องของแฟนสาว เอ้า ต่อให้หนุ่มรายนั้นใจกว้างก็ตาม โอเคถ้าเค้ารับได้ ว่า “แหม...คนเราก็ต้องมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น เพราะใครว้าโตจนป่านนี้แล้วไม่เคยมีแฟนมาก่อน เป็นไปไม่ได้หรอก” แต่เค้าก็ไม่อยากรู้หรอกว่า ไอ้ที่เธอเรียกว่าแฟนเก่าน่ะ เคยมีอะไรกันลึกซึ้งด้วยรึเปล่า? แหงๆ


ดังนั้น จงรักษาตัวและหัวใจเอาไว้ให้ดีเชียวน้อง อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้อิสรเสรี จนเกินงาม รักนวลสงวนตัวไว้แล้วสักวันความรักก็จะมาเคาะประตูเรียกหาเอง


5. เป็นสาวที่มีความจริงใจ ไม่จิงโจ้


และไม่ควรปากกับใจไม่ตรงกัน หรือมีแฟนแล้ว แต่อยากจับปลาสองมือ เพราะหากเมื่อไหร่ความลับแตกดังโพละ (ซึ่งความลับแบบนี้น่ะ ไม่เห็นใครเก็บได้มิดชิด สักกะราย) เมื่อนั้นก็จะรู้สึกว่าเดี๊ยนไม่น่าเป็นคนกะล่อนเล้ย สู้เป็นคนที่ให้ความจริงใจ กับทุกคนไม่ได้ ไม่ต้องโกหกด้วย แถมยังจะได้ใจจากใครๆมากกว่า เพราะการมีน้ำใสใจจริงน่ะ ไม่ว่าใครก็ชอบกันทั้งน้าน จำไว้เลยก็ได้ว่า ความจริงใจช่วยให้ความรักมีแต่ จะมั่นคงแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ลองไม่รู้นะเออ

About this blog

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ขำๆกับภาพหลุด

About

ผู้เข้าชม

free counters